นางแย้ม
นางแย้ม ชื่อวิทยาศาสตร์ Clerodendrum chinense (Osbeck) Mabb. (ชื่อพ้องวิทยาศาสตร์ Clerodendrum fragrans (Vent.) R.Br., Clerodendrum fragrans Willd., Clerodendrum philippinum Schauer) จัดอยู่ในวงศ์กะเพรา (LAMIACEAE หรือ LABIATAE)
สมุนไพรนางแย้ม มีชื่อท้องถิ่นอื่น ๆ ว่า ปิ้งสมุทร (เชียงใหม่), ป้องช้อน ปิ้งชะมด (ภาคเหนือ), ส้วนใหญ่ (ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ), ปิ้งหอม กะอุมเปอ เป็นต้น
ลักษณะของนางแย้ม
- ต้นนางแย้ม เป็นไม้พุ่มลำต้นเตี้ย ลำต้นค่อนข้างตรง มีขนปกคุลมเล็กน้อย เนื้อไม้อ่อน มีความสูงประมาณ 1.-1.5 เมตร ขยายพันธุ์ด้วยวิธีการขุดต้นอ่อนที่เกิดจากรากที่อยู่ใกล้ผิวดิน (เป็นวิธีที่ง่ายที่สุด) หรือใช้วิธีการตอนกิ่งและการปักชำกิ่ง สามารถพบได้มากตามป่าดิบและป่าเบญจพรรณ หรือที่ร่มรำไรที่มีความชื้นสูงและมีดินร่วนซุย นักวิชาการเชื่อว่าต้นนางแย้มนั้นมีถิ่นกำเนิดอยู่ในประเทศอินโดนีเซีย ที่เกาะชวาและเกาะสุมาตรา ส่วนนางแย้มที่มีถิ่นกำเนิดในประเทศไทยนั้นคือต้น “นางแย้มป่า” (Clerodendrum infortunatum L.)
- ใบนางแย้ม ใบเป็นใบเดี่ยว ออกเป็นคู่ ๆ ตรงข้ามกัน ลักษณะของใบคล้ายใบโพธิ์ หรือรูปไข่กว้างคล้ายรูปหัวใจ ใบกว้างประมาณ 8-14 เซนติเมตร และยาวประมาณ 12-17 เซนติเมตร ผิวใบมีขนละเอียดปกคุลมอยู่ทั้งสองด้าน ผิวใบสากระคายมือ ตรงปลายแหลมแต่ไม่มีติ่ง ขอบใบหยักรอบใบเป็นฟันเลื่อยห่าง ๆ เมื่อเด็ดใบแล้วนำมาขยี้จะมีกลิ่นเฉพาะ
- ดอกนางแย้ม ออกดอกเป็นช่อตามยอดและปลายกิ่ง ดอกจะเบียดเสียดติดกันแน่นในช่อ หนึ่งช่อดอกจะกว้างประมาณ 10-12 เซนติเมตร ดอกย่อยมีลักษณะคล้ายดอกมะลิซ้อน คือมีดอกเป็นพวงเล็ก ๆ หลาย ๆ ดอกเรียงรายซ้อนกันอยู่ แต่ละดอกเมื่อบานเต็มที่จะกว้างประมาณ 2-3 เซนติเมตร กลีบดอกมีสีขาว เมื่อบานแล้วจะค่อย ๆ เปลี่ยนสีเป็นสีชมพู สีม่วงแดงสลับขาว ดอกย่อยมีกลีบเลี้ยงสีม่วงแดงเป็นหลอดสั้น ๆ ปลายแยกเป็น 5-6 แฉก กลีบเลี้ยงมีสีม่วงแดง ดอกย่อยจะบานไม่พร้อมกัน ดอกด้านบนจะบานก่อนดอกด้านล่าง แต่ถ้าบานจะบานอยู่นานหลายวัน ดอกมีเกสรตัวผู้ 4 ด้าน ส่วนเกสรตัวเมียมี 1 ก้าน เมื่อผลแก่จะแตกออกเป็น 4 ก้าน ดอกนางแย้มมีกลิ่นหอมมากทั้งในเวลาวันและกลางคืน และสามารถออกดอกได้ตลอดทั้งปี
สรรพคุณของนางแย้ม
- รากช่วยบำรุงประสาท (ราก)
- นางแย้ม สรรพคุณช่วยแก้ไข้ (ราก)
- ช่วยลดความดันโลหิตสูง ด้วยการใช้รากและใบแห้งประมาณ 15-30 กรัม นำมาต้มกับน้ำดื่ม (ราก,ใบ)
- ช่วยแก้หลอดลมอักเสบ ด้วยการใช้รากและใบแห้งประมาณ 15-30 กรัม นำมาต้มกับน้ำดื่ม (ราก,ใบ)
- ช่วยรักษาลำไส้อักเสบ (ราก)
- ช่วยแก้ริดสีดวงทวาร ดากโผล่ ด้วยการใช้รากแห้งจำนวนพอสมควร ต้มกับน้ำแล้วนั่งแช่ในน้ำที่ต้มชั่วครู่ (ราก)
- ช่วยขับปัสสาวะ แก้ปัสสาวะขุ่นเหลืองแดง โดยใช้รากต้มกับน้ำรับประทาน (ราก,ทั้งต้น)
- ช่วยขับระดูขาวของสตรี ด้วยการใช้รากและใบแห้งประมาณ 15-30 กรัม นำมาต้มกับน้ำดื่ม (ราก,ใบ)
- ช่วยแก้ไตพิการ โดยใช้รากต้มกับน้ำรับประทาน (ราก,ทั้งต้น)
- ช่วยแก้ฝีภายใน โดยใช้รากต้มกับน้ำรับประทาน (ราก)
- ต้นนางแย้ม สรรพคุณช่วยแก้พิษฝี (ทั้งต้น)
- ช่วยรักษาโรคผิวหนัง ผดผื่นคัน ด้วยการใช้ใบสดจำนวนพอสมควร ต้มกับน้ำใช้ชะล้างบริเวณที่เป็น (ใบ)
- รากใช้ฝนกับน้ำปูนใสใช้ทารักษาเริม และงูสวัด (ราก)
- ช่วยแก้อาการเหน็บชา ปวดขา ด้วยการใช้รากประมาณ 15-30 กรัม ใช้ตุ๋นกับไก่ รับประทานติดต่อกัน 2-3 วัน (ราก)
- ช่วยแก้เหน็บชาที่มีอาการช้ำบวม ด้วยการใช้รากแห้งประมาณ 30-60 กรัม นำมาต้มกับน้ำดื่ม (ราก)
- ช่วยแก้อาการปวดข้อ และปวดเอว ด้วยการใช้รากแห้งประมาณ 30-60 กรัม นำมาต้มกับน้ำดื่ม (ราก,ทั้งต้น)
- ใบใช้ประคบช่วยรักษาไขข้ออักเสบได้ (ใบ)
- ช่วยแก้อาการกระดูกสันหลังอักเสบเรื้อรัง (ราก,ทั้งต้น)
ข้อควรรู้ ! : สำหรับบางราย ใบของนางแย้มอาจจะทำให้เกิดอาการระคายเคืองได้
ประโยชน์ของนางแย้ม
- ประโยชน์นางแย้ม นิยมปลูกไว้เป็นไม้ประดับ เพื่อความสวยงาม อีกทั้งดอกยังมีกลิ่นหอมทั้งกลางวันและกลางคืน และสามารถออกดอกได้ตลอดทั้งปี
- ชาวไทยสมัยก่อนนิยมนำดอกนางแย้มไปใช้เป็นเครื่องบูชาพระ